รวมที่เที่ยวต่างประเทศ

ในปัจจุบันนี้เรื่องของการเที่ยวนั้นก็เป็นเรื่องหนึ่งที่สำคัญอย่างมากเลยที่เราเองก็ควรที่จะต้องให้ความสนใจและใส่ใจกันอย่างที่สุดเพราะว่าในเรื่องของการเที่ยวนั้นต้องบอกเลยว่าทุกๆคนก็สนุกกับการที่จะได้เที่ยวต่างประเทศด้วยกันทั้งนั้นเพราะว่าการเที่ยวต่างประเทศจะทำให้เราได้เรียนรู้ถึงวัฒนธรรมใหม่ๆอย่างมากมายได้อีกด้วย
เรื่องเหล่านี้เป็นเรื่องที่เราเองก็ควรที่จะต้องให้ความสนใจและคำนึงถึงให้มากที่สุดเพราะอย่างน้อยในการเที่ยวต่างประเทศก็จะช่วยทำให้เราเกิดความสุขและได้รับประสบการณ์ที่ดีๆและใหม่ๆมากขึ้นด้วย อะไรที่จะช่วยทำให้เรานั้นยิ่งมีความสุขก็ควรที่จะต้องทำเพราะอย่างน้อยสิ่งที่จะช่วยทำให้เราได้ผ่อนคลายจากเรื่องเครียดๆได้นั้นก็คือการเที่ยวนั้นเอง

รีวิวท่องเที่ยวเที่ยวยุโรปเที่ยวอังกฤษ

เที่ยวอังกฤษ ชมหอนาฬิกา Big Ben

 หอเอลิซาเบธ (Elizabeth Tower) หรือที่เรามักจะรู้จักกันจากชื่อระฆังของนาฬิกาที่หอแห่งนี้ว่า ‘บิ๊กเบน’ (Big Ben) หนึ่งในสัญลักษณ์แห่งมหานครลอนดอนที่เป็นที่รู้จักไปทั่วโลก กลายเป็นหอนาฬิกาที่ถูกปรับปรุงขนานใหญ่ มีการปิดคลุมด้วยนั่งร้านในช่วงเวลาหนึ่ง และนี่ถือเป็นโครงการอนุรักษ์ที่ใหญ่ที่สุดและซับซ้อนที่สุดในประวัติศาสตร์ของหอนาฬิกาแห่งนี้

ข้อมูลจากเว็บไซต์รัฐสภาสหราชอาณาจักรระบุว่า หอนาฬิกาความสูง 96 เมตรแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นโดยผู้คนในยุควิกตอเรีย ด้วยมาตรฐานสูงสุดโดยใช้ช่างฝีมือที่ดีที่สุดและวัสดุที่ดีที่สุด แต่ก็เช่นเดียวกับอาคารอื่นๆ ที่มีอายุใกล้เคียงกัน หอแห่งนี้ประสบปัญหาที่ต้องได้รับการแก้ไข เช่น หินที่แตกหัก เหล็กที่ขึ้นสนิม หลังคารั่ว หรือแม้กระทั่งตัวนาฬิกาที่มีอายุมาก

กระบวนการบูรณะที่เกิดขึ้นนั้นมีทั้งการซ่อมแซมและตกแต่งภายใน การปรับปรุงมาตรฐานด้านอนามัย ความปลอดภัย และระบบป้องกันอัคคีภัย การปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้พลังงานเพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และการเข้าถึงการบำรุงรักษาและบริการฉุกเฉินที่ดียิ่งขึ้นโดยการติดตั้งลิฟต์ โดยยังคงอนุรักษ์องค์ประกอบสำคัญที่ออกแบบโดย ชาร์ลส์ แบร์รี และ ออกัสตัส เวลบี พูจิน ซึ่งรวมถึงงานแกะสลักหิน หน้าปัดนาฬิกา และยอดแหลมสีทอง โดยใช้เงินลงทุนกว่า 79.7 ล้านปอนด์

รัฐสภาสหราชอาณาจักรระบุว่า หอนาฬิกาบิ๊กเบนนั้นไม่เพียงแต่เป็นสัญลักษณ์ของสหราชอาณาจักรเท่านั้น แต่ยังเป็นสัญลักษณ์ของประชาธิปไตยด้วย และนับจากครั้งแรกที่ระฆังของบิ๊กเบนลั่นออกมา ก็นับเป็นระยะเวลายาวนานกว่า 160 ปีแล้ว แม้จะมีผลกระทบที่เกิดขึ้นบนตัวอาคารจากการระเบิดในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 เช่นเดียวกับผลกระทบจากสภาพอากาศและมลภาวะก็ตาม

โครงการอนุรักษ์หอนาฬิกาแห่งนี้ใกล้ดำเนินการเสร็จสิ้นแล้ว โดยเมื่อการบูรณะเสร็จสิ้นลงในฤดูร้อนและมีการเคลียร์พื้นที่เป็นที่เรียบร้อย รัฐสภาสหราชอาณาจักรจะกลับมาเป็นเจ้าของอาคารอีกครั้ง และเริ่มเตรียมพื้นที่ภายในอาคารเพื่อใช้งานในอนาคต โดยจะส่งต่อไปยังทีมที่ส่งมอบประสบการณ์แก่ผู้มาเยือน จากนั้นขั้นตอนการเตรียมการนิทรรศการและเส้นทางทัวร์คาดว่าจะแล้วเสร็จในฤดูหนาว และบรรดาผู้มาเยือนน่าจะได้กลับเข้าไปชมหอนาฬิกาแห่งนี้ได้อย่างเต็มรูปแบบอีกครั้ง

เที่ยวเกาหลี ชมพระราชวังคยองบกกุง Gyeongbokgung Palace

พลาดไม่ได้เลยค่ะ สำหรับคนชอบถ่ายรูป ชอบแนวประวัติศาสตร์ สถาปัตยกรรมต่างๆ ความสวยงาม อลังการ เราชวนให้ไปเที่ยวที่ พระราชวังคยองบกกุง (Gyeongbokgung Palace) สักครั้ง ที่นี่เป็นพระราชวังที่มีขนาดใหญ่ และเก่าแก่ที่สุดในกรุงโซล สร้างขึ้นในปี ค.ศ.1394 ในสมัย พระเจ้าแทโจ (Taejo of Joseon) ปฐมกษัตริย์แห่งราชวงศ์โชซอน ค่ะ อีกทั้งยังเป็นทั้งสัญลักษณ์ และแหล่งท่องเที่ยวยอดฮิตของกรุงโซลอีกด้วย

ด้านในแต่เดิมนั้นเคยมีอาคารและตำหนักต่างๆ กว่า 200 หลังด้วยกัน แต่เมื่อมีการรุกรานของญี่ปุ่น อาคารก็ถูกทำลายลง ทำให้เหลือในปัจจุบันแค่เพียง 10 หลังเท่านั้นค่ะ นอกจากนี้ภายในพระราชวังยังมีพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติและพิพิธภัณฑ์พื้นบ้านเกาหลีให้เราได้เรียนรู้วัฒนธรรมต่างๆ ของชาวเกาหลี แถมยังรู้สึกเหมือนได้ย้อนเวลาไปอยู่ในสมัยราชวงศ์โชซอนเลยทีเดียว

ใครที่มีแพลนไปเที่ยวโซล ประเทศเกาหลีใต้ พระราชวังคยองบกกุง (Gyeongbokgung Palace 경복궁) คงเป็นหนึ่งในแลนด์มาร์คที่จดลงในลิสต์ เพราะที่นี่เป็นถึงพระราชวังที่เก่าแก่และใหญ่ที่สุดในกรุงโซล ด้วยทำเลที่ตั้งอยู่ตรงหน้า ภูเขาบูกักซาน (Bugaksan Mountain) ทางทิศเหนือของกรุงโซล จึงเสริมให้พระราชวังแห่งนี้ดูยิ่งใหญ่ และงดงามเจิดจรัส สมชื่อ พระราชวังคยองบกกุง ที่มีความหมายว่า “พระราชวังแห่งพรอันแสงสว่าง” จริงๆ ค่ะ

จุดเด่นของที่นี่คือ พระที่นั่งคึนจองวอง (Geunjeongjeon) พระที่นั่งหลักที่ใหญ่ที่สุดในเขตพระราชวังคยอบกกุง เป็นที่ประทับของกษัตริย์เพื่อว่าราชการและพบปะกับเหล่าทูตจากเมืองต่างๆ บริเวณด้านหน้าเป็นลานกว้าง ไว้จัดพิธีการสำคัญ ต่อมาคือ ศาลาคยองฮวีรู (Gyeonghoeru Pavilion 경회루) สถานที่จัดงานเลี้ยงและพิธีการสำคัญในสมัยราชวงศ์โชซอน เป็นอาคารสองชั้นที่สร้างด้วยไม้และหิน มีเสาทั้งหมด 48 ต้น ตั้งอยู่กลางน้ำ รายล้อมไปด้วยธรรมชาติอันร่มรื่น โดยเฉพาะในช่วงฤดูใบไม้ผลิที่ซากุระสีชมพูอ่อนจะผลิบานสลับกับต้นไม้สีเขียวขจีรอบๆ ศาลา

ศาลาฮยางวอนจอง (Hyangwonjeong Pavilion 향원정) อีกหนึ่งไฮไลท์ของพระราชวังคยองบกกุงที่ขึ้นชื่อว่าเป็นศาลาที่งดงามมากที่สุดแห่งหนึ่ง สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1873 ในสมัยพระเจ้าโกจอง มีรูปร่างหกเหลี่ยม ตกแต่งด้วยลวดลายเกาหลีแบบดั้งเดิม ตั้งอยู่บนเกาะกลางทะเลสาบที่เชื่อมต่อกับ สะพานไม้ชวีฮยางกโย (Chwihyanggyo Bridge) สะพานไม้ที่ยาวที่สุดในสมัยราชวงศ์โชซอน และเป็นจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีที่งดงามจนหาที่เปรียบไม่ได้เลยค่ะ

นอกจากนี้ก็ยังมี พิพิธภัณฑ์พระราชวังแห่งชาติ  (National Palace Museum of Korea) และ พิพิธภัณฑ์พื้นบ้านเกาหลี (National Folk Museum) ที่จัดแสดงโบราณวัตถุที่สำคัญของเกาหลี รวมถึงการบอกเล่าวิถีชีวิต ค่านิยม ความเป็นอยู่ และศิลปะวัฒนธรรมอันเป็นเอกลักษณ์ให้คนรุ่นหลังได้มาศึกษาและอนุรักษ์สืบต่อไปด้วยค่ะ

เที่ยวเยอรมัน ชมหุบเขาโรแมนติกไรน์ (Rhine Gorge)

สถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังของประเทศ เยอรมัน สถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สวยงามและมีชื่อเสียงมากที่สุด เป็นหุบเขามีแม่น้ำไรน์ไหลผ่าน และมีหมู่บ้านที่มีระเบียงองุ่นเรียงราย จึงทำให้ที่นี่ มีภูมิทัศน์ที่สวยงามถูกล้อมรอบด้วยธรรมชาติ นักท่องเที่ยวที่ชอบธรรมชาติมักจะเดินทางมาที่นี่เพื่อมาสัมผัสกับบรรยากาศที่สดชื่นและสุดโรแมนติก กับแม่น้ำไรน์ที่ทอดยาวไหลผ่านหลายประเทศ และที่นี่ยังมีกิจกรรมสำหรับนักท่องเที่ยวคือ สามารถล่องเรือไปตามแม่น้ำไรน์ในหุบเขาโรแมนติกไรน์นี้ได้ด้วย

ชมหุบเขาโรแมนติกไรน์ (Rhine Gorge) ที่เต็มไปด้วยเป็นเส้นทางหุบเขาที่ทอดยาวระหว่างเมือง Bingen และเมือง Bonn โดยที่ตรงกลางมีแม่น้ำไรน์ไหลผ่าน ซึ่งทางธรณีวิทยานั้นเรียกพื้นที่ตรงนี้ว่า ไรน์ฟยอร์ด ที่โดดเด่นด้วยภูมิทัศน์ที่งดงาม และปราสาทยุคกลางกว่า 40 แห่ง รวมทั้งหมู่บ้านงดงามประกอบไปด้วยระเบียงไร่องุ่น นั่นจึงทำให้ภูมิภาคในแถบนี้กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวตามธรรมชาติที่มีชื่อเสียงมากที่สุด ทั้งนี้ วิธีที่ดีที่สุดสำหรับนักท่องเที่ยวในการชื่นชมและสัมผัสความโรแมนติกของแม่น้ำไรน์ก็คือการล่องเรือนั่นเองค่ะ